472
คู่
มื
อหลั
กสู
ตรความปลอดภั
ยของผู้
ป่
วยขององค์
การอนามั
ยโลก: ฉบั
บสหวิ
ชาชี
พ (ฉบั
บภาษาไทย) เล่
ม 4
นั
กศึ
กษาส่
วนใหญ่
จะคุ
้
นเคยกั
บค�
ำว่
า
การปฏิ
บั
ติ
โดยใช้
หลั
กฐานเชิ
ง
ประจั
กษ์
(evidence-based practice)
เช่
นเดี
ยวกั
บการศึ
กษาแบบสุ่
มที่
มี
กลุ
่
มควบคุ
ม (Randomized controlled trial: RCT) ที่
ท�
ำให้
นั
กวิ
จั
ยทราบว่
า
การรั
กษาใดการรั
กษาหนึ่
งได้
ผลหรื
อไม่
วิ
ธี
การวิ
จั
ยทางวิ
ทยาศาสตร์
ดั
งเช่
น
RCT ถู
กน�
ำมาใช้
เพื่
อการวั
ดประสิ
ทธิ
ภาพทางคลิ
นิ
กนั้
นจั
ดเป็
นมาตรฐาน
ระดั
บสู
ง (Gold standard) ของการวิ
จั
ยทางคลิ
นิ
ก งานวิ
จั
ยเพื่
อการปรั
บปรุ
ง
คุ
ณภาพใช้
ระเบี
ยบวิ
ธี
วิ
จั
ยที่
ออกแบบมาเพื่
อวั
ดลั
กษณะเฉพาะที่
เกี่
ยวข้
อง
กั
บเหตุ
การณ์
ที่
ไม่
พึ
งประสงค์
องค์
ประกอบที่
เป็
นบริ
บท หรื
อกระบวนการ
ดู
แลที
่
อาจมี
ผลท�
ำให้
เกิ
ดเหตุ
การณ์
ที
่
ไม่
พึ
งประสงค์
และการพั
ฒนาและ
ทดสอบการแก้
ปั
ญหาที่
เหมาะสม มากกว่
าที่
จะวั
ดเพี
ยงแค่
ความถี่
ของการ
เกิ
ดเหตุ
การณ์
เมื่
อปั
ญหาปรากฏขึ้
นกั
บผู
้
ป่
วยที่
เราดู
แล ปั
ญหานั้
นก็
ควร
ถู
กแก้
ไขหรื
อการจั
ดการที่
เร็
วที่
สุ
ดเท่
าที่
จะท�
ำได้
ไม่
มี
ใครสามารถควบคุ
ม
เหตุ
การณ์
ต่
างๆ ได้
เหมื
อนในงานวิ
จั
ยเชิ
งทดลอง เพื่
อที่
จะให้
เข้
าใจว่
าเกิ
ด
อะไรขึ้
นและท�
ำไมจึ
งเกิ
ดขึ้
น เราจึ
งจ�
ำเป็
นต้
องศึ
กษาและวิ
เคราะห์
เหตุ
การณ์
จ�
ำเพาะที่
เกิ
ดขึ้
นแล้
ว น�
ำสิ่
งที่
ได้
จากการสั
งเกตและข้
อสรุ
ปมาใช้
ออกแบบ
ระบบเพื่
อเพิ่
มความปลอดภั
ย ในหั
วข้
อต่
อไปจะอธิ
บายความแตกต่
างเกี่
ยว
กั
บการวั
ดที่
ใช้
ในงานวิ
จั
ยกั
บกระบวนการปรั
บปรุ
ง
ภาคอุ
ตสาหกรรมอื่
นได้
น�
ำวิ
ธี
การปรั
บปรุ
งคุ
ณภาพมาใช้
เป็
นเวลา
หลายทศวรรษแล้
ว แต่
ส�
ำหรั
บนั
กศึ
กษาวิ
ชาชี
พสุ
ขภาพจะไม่
คุ
้
นเคยกั
บ
เป้
าหมายในการปรั
บปรุ
งคุ
ณภาพการดู
แล ซึ
่
งเกี่
ยวข้
องกั
บการเปลี่
ยนแปลง
รู
ปแบบการปฏิ
บั
ติ
งานของผู
้
ให้
บริ
การสุ
ขภาพและของระบบ เพื
่
อที่
จะได้
ผลลั
พธ์
ที่
ดี
ขึ้
นแก่
ผู้
ป่
วย [2]
เรื่
องความปลอดภั
ยของผู
้
ป่
วยต้
องอาศั
ยความเข้
าใจอย่
างลึ
กซึ้
ง
ถึ
งกระบวนการดู
แลผู
้
ป่
วย และความสามารถในการวั
ดผลลั
พธ์
ที่
เกิ
ดขึ้
นกั
บ
ผู
้
ป่
วย พร้
อมทั้
งทดสอบว่
าวิ
ธี
การที่
ใช้
แก้
ปั
ญหานั้
นมี
ประสิ
ทธิ
ภาพหรื
อไม่
หากไม่
มี
การวั
ดผลลั
พธ์
ของการดู
แลผู
้
ป่
วย จะท�
ำให้
ยากที่
จะรู
้
ว่
าขั้
นตอนที่
ผู
้
ให้
บริ
การสุ
ขภาพน�
ำมาใช้
แก้
ปั
ญหานั้
นส่
งผลให้
สถานการณ์
ดี
ขึ้
นได้
จริ
ง
หรื
อไม่
เพี
ยงล�
ำพั
งแนวปฏิ
บั
ติ
อาจไม่
ได้
แก้
ปั
ญหา เพราะอาจมี
ปั
จจั
ยอื่
นๆ
ที่
เข้
ามาเกี่
ยวข้
อง นอกเหนื
อจากการที
่
เจ้
าหน้
าที่
ไม่
ได้
ปฏิ
บั
ติ
ตามขั้
นตอน
ที่
ถู
กต้
อง การท�
ำความเข้
าใจถึ
งสาเหตุ
ต่
างๆ ของการเกิ
ดเหตุ
การณ์
ที่
ไม่