Page 168 - 03-Patient Safety

380  คู่มือหลักสูตรความปลอดภัยของผู้ป่วยขององค์การอนามัยโลก: ฉบั บสหวิชาชีพ (ฉบับภาษาไทย) เล่ม 3
การวิเคราะห์สไตล์การเรียนรู้หรือทักษะในการแก้ปัญหาของแต่ละ
คนที่น�ำมาใช้ในการปฏิบัติงานเป็ นทีม เป็นสิ่งที่มี ประโยชน์หลังจากที่ได้
ท�ำการประเมินสมรรถนะของทีม [28]
สรุปเรื่องที่นักศึกษาต้องรู้ 20
การปฏิบัติ งานเป็นทีมที่มี ประสิทธิภาพไม่ได้ เกิดขึ้นเอง แต่ต้อง
มีความเข้าใจถึงลั กษณะของทีมที่ประสบความส� ำเร็จ ในขณะเดี ยวกั น
ต้องมีความรู้ วิธีปฏิ บัติงานของที ม และรู ้วิธีที่จะรักษาความเป็นที มที่มี
ประสิทธิ ภาพให้คงอยู่ต่อไป มี เครื่องมือหลายชนิดที่ถู กพัฒนาขึ้นมาเพื่อที่
จะสนับสนุนการสื่อสารและการปฏิบัติ งานของทีม เช่น ISBAR, call-out,
check-back และ “I pass the baton” (ตามที่กล่ าวในรายละเอียดมาก่ อน
หน้านี้)
เรื่องที่นักศึกษาต้องท�ำเพื่อน�ำหลักการปฏิบัติ งานเป็นทีมไปใช้ 21 22 23
นักศึกษาสามารถน�ำการปฏิบัติ งานเป็นทีมไปใช้ได้ทันทีที่เขาเริ่ ม
การเรียน หลายหลักสู ตรทางด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพใช้การเรียนโดยใช้
ปัญหาเป็นฐาน หรือใช้การอภิปรายกลุ่มย่ อย ซึ่งต้องการให้นักศึ กษาปฏิบัติ
งานร่วมกันเป็นทีมเพื่อจะเรี ยนรู้และแก้ ปัญหา จากกิจกรรมเหล่านี้จะท�ำให้
นักศึกษาเริ่มเข้าใจวิ ธีปฏิบัติงานของทีม และรู้ ว่าอะไรเป็นสิ่งที่ท�ำให้กลุ ่ม
เรียนรู้ ได้อย่างมีประสิ ทธิภาพ การเรี ยนรู้ที่ จะแบ่งปันข้อมูล ต�ำรา และ
บันทึกการบรรยาย เป็นผู้เบิกทางการแบ่งปันข้อมูลผู้ป่วยและผู้ มารับบริการ
พึงตระหนักว่าค่านิยมและสมมุติฐานของคนๆหนึ่งส่งผลต่อปฏิสัมพันธ์
กับสมาชิ กคนอื่นๆ ได้
นักศึกษาเรียนรู ้จากการสังเกตความหลากหลายของปฏิสัมพั นธ์
ระหว่างบุ คลากรวิชาชีพสุ ขภาพต่างๆ เขาต้องตระหนั กว่า แม้ว่าที ม
จะประกอบด้วยสมาชิกที่บุ คลิกต่ างกันและสไตล์การปฏิบัติ งานต่างกัน
แต่ก็ไม่จ�ำเป็ นว่าจะท�ำให้ประสิทธิ ภาพของทีมลดลง แต่ในทางตรงกันข้าม
จุดเด่นและจุดด้อยของสมาชิกแต่ ละคนในทีมจะเป็นตัวเสริมกัน ที่จะท� ำให้
การบริการมีคุณภาพที่ ดีและปลอดภัย